แนะหาจังหวะดีซื้อกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รับเฟดลดดอกช่วงปลายปี 2566 รับภาวะเศรษฐกิจลดน้อย
นายณัฐกฤว่ากล่าว เหล่าทวีทรัพย์สิน ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ แบงค์ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวมาว่า ตอนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 2 ปี ของสหรัฐอเมริกา ได้พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.3% สูงสุดตั้งแต่ปี 2551 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นมาสัมผัสระดับ 4% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีกลายที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา อยู่ในระดับราว 1% แค่นั้น เมื่อใคร่ครวญจากผลของการสัมมนา Fed เมื่อก.ย. 2565 ก่อนหน้าที่ผ่านมา ศูนย์พินิจพิจารณาเศรษฐกิจแล้วก็แผนการทิสโก้ (TISCO ESU) คิดว่า Bond Yield สหรัฐอเมริกา ที่ระดับ 4% ได้สะท้อนความมุ่งมาดของการขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ไปๆมาๆกแล้ว
นอกนั้น ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ไปสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 Fed ก็จะเริ่มปรับลดอัตราค่าดอกเบี้ยหลักการเพื่อกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2566 ก็เลยได้โอกาสสูงที่ Bond Yield ระยะกึ่งกลางถึงระยะยาวของสหรัฐอเมริกา จะปรับต่ำลงไปด้วย นำมาซึ่งการทำให้ราคาของพันธบัตรปรับนิสัยขึ้นตาม โดยเหตุนั้น แบงค์ทิสโก้ก็เลยชี้แนะให้ลูกค้าทยอยลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งตราสารหนี้สินที่มีชั้นความน่าไว้ใจ (Credit Rating) สูงของสหรัฐอเมริกา เพื่อรับจังหวะสองต่อ ต่อที่ 1เป็นจากยิลด์ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงถึง 4% แล้วก็ต่อที่ 2หมายถึงจังหวะสร้างผลกำไรจากราคาพันธบัตรที่ปรับมากขึ้น “การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งตราสารหนี้สินที่มี Credit Rating สูง อายุปานกลางถึงยาว แล้วก็มีอัตราผลตอบแทนเมื่อถือจนกระทั่งถึงกำหนดอายุราวๆ 4% ได้โอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มในตอน 1 ปีด้านหน้า ซึ่งจะช่วยกระจัดกระจายการเสี่ยงรวมทั้งลดความเปลี่ยนแปลงของพอร์ตการลงทุนในตอนที่เศรษฐกิจโลกได้โอกาสไปสู่ภาวะถดถอยได้”
