เกินไปไหม สั่งลงโทษเด็ก ป.3 ลุกนั่ง 300 ที จนเดินไม่ได้ ปัสสาวะไม่ออก

เกินไปไหม สั่งลงโทษเด็ก ป.3 ลุกนั่ง 300 ที จนเดินไม่ได้ ปัสสาวะไม่ออก

ผู้ปกครองเด็กชาย ป.3 บุกโรงพัก ขอความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกทำโทษลุกนั่ง 300 ครั้ง จนไตทำงานผิดปกติ ปัสสาวะไม่ออก ถามทำเกินกว่าเหตุไหม

เด็ก จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 เผยแพร่เรื่องราวร้องเรียนจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง กรณีที่ได้โพสต์ภาพนักเรียนชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.รือเสาะ โดยอ้างว่า “ถูกผู้ดูแลลงโทษให้เด็กลุกนั่ง จำนวน 300 ที จนต้องเข้าโรงพยาบาลอาการสาหัส ทำให้เด็กเดินไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้ตับไตทำงานไม่ปกติปัสสาวะไม่ออก เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กตัวแค่นี้ ถึงน้องจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่ควรทำถึงขนาดนี้มันเกินไปไหม” จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาถึงการลงโทษเด็กชายในครั้งนี้ไม่เหมาะสมและรุนแรงเกินกว่าเหตุ ล่าสุด (24 มกราคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องดังกล่าว ณ โรงพยาบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส หลังทราบว่าเด็กชายคนดังกล่าวซึ่งป่วยจากการถูกลงโทษนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกผู้ป่วยในชาย โดยมี น.ส.นิมูรณี อายุ 33 ปี ผู้เป็นมารดากำลังเฝ้าดูแลอาการบุตรชาย โดยทางโรงพยาบาลได้นำป้ายงดเข้าเยี่ยมแพทย์กำลังตรวจผู้ป่วยมาตั้งไว้บริเวณประตูทางเข้าตึกผู้ป่วยในชาย และอนุญาตให้เพียงญาติ 1 คน ที่สามารถอยู่เฝ้าเตียงผู้ป่วยได้ ทำให้ยายและญาติของเด็ก รวม 2 คน ต้องออกมานั่งอยู่ที่บริเวณเก้าอี้ที่ตั้งไว้หน้าตึกผู้ป่วยในชาย ส่วน น.ส.นิมูรณี ผู้เป็นมารดา ได้แจ้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือมายังผู้สื่อข่าว หากแพทย์ตรวจบุตรชายแล้วเสร็จ จะออกมาพบเพื่อให้รายละเอียดต่างๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยในระหว่างรอ ญาติคนหนึ่งที่ออกมานั่งรอที่เก้าอี้หน้าตึกผู้ป่วยในชาย ได้ให้รายละเอียดเบื้องต้นว่า เด็กชายพักประจำที่หอภายในโรงเรียนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ซึ่งในทุกวันศุกร์จะกลับบ้าน และเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ยายเห็นผิดปกติที่ไม่ยอมลุกเดิน เมื่อสอบถามเด็กก็เอาแต่ร้องไห้ เมื่อคาดคั้นจึงทราบว่าถูกผู้ดูแลหอพักทำโทษ เนื่องจากไม่ได้ปิดก๊อกน้ำในหอพักล็อกชั้น ป.1 ถึง ป.3 ผู้ดูแลสอบถามนักเรียนในหอพักที่ใช้น้ำในล็อกดังกล่าว ต่างไม่มีใครนักเรียนคนใดยอมรับจึงถูกผู้ดูแลลงโทษนักเรียนทั้งหมดที่อยู่ในล็อกดังกล่าวด้วยการให้ลุกนั่งจำนวน 300 ที ซึ่งเป็นที่มาที่ไปของอาการป่วย ต่อมา นายซุลกอรนัย อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นบิดา ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการ และได้เปิดเผยถึงรายละเอียดว่า สาเหตุมาจากเด็กนักเรียนไม่ปิดก๊อกน้ำจึงโดนทำโทษลุกนั่งจำนวน 300 ครั้ง ในล็อกชั้น ป.1 ถึง ป.3 ทั้งหมด

เกินไปไหม สั่งลงโทษเด็ก ป.3 ลุกนั่ง 300 ที จนเดินไม่ได้ ปัสสาวะไม่ออก

เหตุเกิดช่วงเย็นวันพฤหัสฯ ที่ 19 มกราคม 2566 แกกลับมาบ้านรู้สึกเจ็บๆ แต่ยังไม่บอก ตกดึกแม่เขาเฝ้าดูอาการพบว่าปัสสาวะไม่ออก

ตอนเช้าตนกลับไปบ้านดูสภาพลูกแล้วน้ำตาไหล พอเย็นวันเสาร์ได้พาลูกมาโรงพยาบาล ข่าวเด็ก หมอตรวจเลือดพบค่าตับสูง ล่าสุดอาการดีขึ้นเริ่มปัสสาวะได้ จึงอยากฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการช่วยพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวกับผู้ดูแลเด็กให้ดีกว่านี้ ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.นิมูรณี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เสกสรร เรืองฤทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 20 มกราคม เวลา 12.57 น. โดยแจ้งว่าเมื่อวันที่ 20 มกราคม บุตรชายกลับมาจากโรงเรียนสังเกตเห็นอาการผิดปกติไม่สามารถเดินได้ จึงถามบุตรชายทราบว่า โดนสั่งลุกนั่งเพื่อเป็นการทำโทษจำนวนหลายครั้งจนทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.สุธิภรณ์ ขนอม รอง ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 และนายจรัญ เหล็มเจริญ ผอ.โรงเรียนบ้านยะบะอุปการวิทยา รวมทั้งผู้ดูแลหอพักนักเรียนชายอีก 2 คน ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของเด็กชายที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกผู้ป่วยในชาย โดยทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรือเสาะไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในภายตึกผู้ป่วยในชาย รวมถึงก็ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพ แต่คาดว่าน่าจะเป็นการนำผู้ดูแลหอพักนักเรียนชายมาขอโทษ พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยเพื่อเชิญผู้ปกครองของเด็กไปตกลงกันเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมด ด้านนายจรัญ เหล็มเจริญ ผอ.โรงเรียนบ้านยะบะอุปการวิทยา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีเด็กไม่รู้คนไหนเปิดน้ำทิ้งไว้ในห้องน้ำ จนล้นซึ่งเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง พอครั้งที่ 2 ถามใครก็ไม่รับผิดชอบ ผู้ดูแลก็บอกว่าฉันจะทำโทษเธอยกห้องคือทั้งหมด 21 คน โดยบอกว่าจะให้ลุกนั่ง 500 ครั้ง ก็ไปทำเรื่อยช้าๆ ซึ่งทำจริงไม่ถึง 100 ครั้ง เราก็มีมาตรการได้คุยกับผู้ดูแลหอทำโทษนั้นทำได้ แต่ให้เก็บขยะ ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีการคาดโทษจะมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีไปตามลำดับ เช่น การตักเตือน ขณะที่ความคืบหน้าอาการของเด็กชาย นพ.ซัมซุดดีน กล่าวว่า ผู้ป่วยเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งวิธีการรักษาก็คือ การให้น้ำเกลือและติดตามค่าตับค่าไตทุกวัน ถ้าเกิดว่าค่าไตดีขึ้นค่าตับดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้.

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : พม. ช่วยเด็ก 10 คนสุดท้ายออกจากสถานสงเคราะห์เอกชนแล้ว